Back to articles

Prejuvenation trend ล่าสุดปี 2025

ยิ่งกระตุ้นคอลลาเจนเร็ว ยิ่งดีจริงไหม? เข้าใจเทรนด์ Prejuvenation ปี 2025 ที่ทุกคนหันมาเริ่มดูแลก่อนแก่
ในปี 2025 เทรนด์ความงามที่มาแรงที่สุดไม่ใช่การย้อนวัย แต่คือการ ป้องกันก่อนแก่ หรือที่เรียกว่า Prejuvenation (Pre + Rejuvenation) ซึ่งกลายเป็นแนวทางใหม่ของคนรุ่นใหม่ที่ไม่รอให้ผิวเสื่อมก่อนถึงจะเริ่มดูแล
แต่คำถามสำคัญคือ… การเร่งกระตุ้นคอลลาเจนเร็วตั้งแต่อายุยังน้อย ดีจริงไหม? หรือเสี่ยงเกินไป?

🌿 คอลลาเจนคืออะไร และทำไมเราถึงต้องกระตุ้นมัน?
คอลลาเจน (Collagen) คือโปรตีนหลักในผิวหนังที่ช่วยให้ผิวดูแน่น เต่งตึง และยืดหยุ่น โดยคอลลาเจนในร่างกายจะเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อายุ 25 ปี และลดลงถึง 1–2% ทุกปี
เมื่อคอลลาเจนลดลง → ผิวจะเริ่มบางลง หย่อนคล้อย เกิดริ้วรอยง่าย ดังนั้นการ “กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน” ตั้งแต่ช่วงอายุยังน้อยจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญของเทรนด์ Prejuvenation

✨ เทรนด์ Prejuvenation คืออะไร?
Prejuvenation ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือแนวทางใหม่ของการดูแลผิวแบบเชิงรุก (proactive aesthetics) โดยตั้งเป้าหมาย “ป้องกันไม่ให้ผิวเสื่อม” มากกว่ารอให้เกิดปัญหาแล้วจึงเริ่มแก้ไข
การทำ Prejuvenation ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้ผิวมีโครงสร้างแข็งแรงจากภายใน ไม่ต้องใช้พลังงานหรือสารเติมเต็มในปริมาณมากเมื่อเข้าสู่วัย 40+ และยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดริ้วรอยลึก ความหย่อนคล้อย หรือความบางของผิวที่แก้ไขยากในภายหลัง
เมื่อเทียบกับคนที่เริ่มดูแลตอนอายุมากกว่า จะพบว่าคนที่เริ่ม Prejuvenation:
ใช้ฟิลเลอร์และเทคโนโลยีน้อยกว่าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เดียวกัน
ผิวมีความแน่นและเรียบเนียนต่อเนื่องมากกว่า
โครงสร้างผิวไม่เปลี่ยนแปลงเร็ว ทำให้ยังดูธรรมชาติและไม่ “พยายามย้อนวัย”
ไม่เกิดอาการผิวบางหรือ overcorrect จากการแก้ไขเร่งด่วน
Prejuvenation เป็นแนวคิดที่เน้นการเริ่มดูแลและเสริมโครงสร้างผิวตั้งแต่ยังไม่มีปัญหา โดยเฉพาะกลุ่มวัย 20–30 ปี ซึ่งนิยม:
ฉีด Skin Booster เพื่อฟื้นฟูผิวระดับเซลล์
ใช้ Biostimulator เช่น HarmonyCA หรือ Sculptra เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนแต่เนิ่น ๆ
เลือกทำเลเซอร์หรือ RF เพื่อกระตุ้นผิวอย่างปลอดภัยโดยไม่ทำลายผิวชั้นบน
ใช้ skincare กลุ่มวิตามิน A / Peptide / Growth factor ตั้งแต่อายุยังน้อย
เป้าหมายของ Prejuvenation ไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่คือ “การชะลอการเกิดปัญหา” ซึ่งเป็นแนวคิดที่แพทย์ผิวหนังและแพทย์ความงามทั่วโลกให้การสนับสนุน

🔎 ยิ่งกระตุ้นเร็ว ยิ่งดีไหม? มีงานวิจัยรองรับหรือไม่?
🔬 ดูแลผิวแบบแยกตามชั้น – เพื่อผลลัพธ์ที่ลึกและยาวนานที่สุด
การเข้าใจชั้นผิวแต่ละชั้นจะช่วยให้สามารถเลือกวิธีการดูแลที่เหมาะสมที่สุดและได้ผลยาวนานที่สุด โดยเทคโนโลยีต่าง ๆ จะออกฤทธิ์ในระดับชั้นผิวที่ต่างกันดังนี้:
ชั้นผิว
ลักษณะ
เทคโนโลยี/การรักษาที่เหมาะสม
Epidermis (ผิวชั้นบนสุด)
ช่วยให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส ลดเม็ดสี
Dual Yellow, Pico Laser, Skincare (วิตามิน A / C / B3)
Dermis (หนังแท้)
แหล่งคอลลาเจนและอิลาสติน ผิวแน่น-เด้ง
Skin Booster, Skinvive, Belotero Revive, RF Microneedle (Viva)
Subcutaneous Fat (ไขมันใต้ผิว)
รองรับความอิ่มฟู ผิวไม่โทรม
Biostimulator เช่น Sculptra, HarmonyCA
SMAS / Muscle (กล้ามเนื้อ)
ควบคุมความหย่อนคล้อยของผิว
Ulthera, Oligio, HIFU
Ligament / Fascia (เอ็นยึด)
โครงสร้างพยุงผิว ป้องกันผิวทรุด
Ulthera, HIFU (ระดับลึก 4.5 mm)
Bone (กระดูก)
โครงหน้าโดยรวม เสริมโครงสร้างที่ฝ่อลงตามวัย
Filler (e.g. Volux, Volume) เพื่อคืนโครงกระดูกใบหน้า
การดูแลให้ครบทุกชั้นผิว ไม่ใช่แค่เพื่อความสวยภายนอก แต่คือการลงทุนให้ผิวของคุณ “อ่อนเยาว์จากฐานราก” อย่างแท้จริง
คำตอบคือ: ดี – หากเลือกวิธีที่เหมาะกับวัยและสภาพผิว
จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และการศึกษาในวารสารด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย (Aesthetic Dermatology and Aging Research) พบว่า การดูแลผิวแบบองค์รวมตั้งแต่อายุยังน้อย โดยมุ่งกระตุ้นโครงสร้างผิวครบทั้ง 5–6 ชั้น ได้แก่:
ชั้นผิวหนังกำพร้า (Epidermis)
ชั้นหนังแท้ (Dermis)
ชั้นไขมันใต้ผิว (Subcutaneous fat)
ชั้นกล้ามเนื้อ (SMAS / muscle)
ชั้นเอ็นยึดพังผืด (Ligament)
และชั้นกระดูก (Bone support)
สามารถชะลอกลไกความชราทั้งภายในและภายนอกได้จริง โดยเฉพาะการเสื่อมสภาพของ collagen type I & III ซึ่งเกี่ยวข้องกับความแน่นและความยืดหยุ่นของผิว
งานวิจัยหลายฉบับแสดงให้เห็นว่า การกระตุ้นคอลลาเจนตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยเทคนิคที่ปลอดภัยและไม่รุนแรง เช่น skinbooster, เลเซอร์พลังงานต่ำ หรือ biostimulator ขนาดต่ำ ช่วยชะลอการบางของผิวและยืดอายุความเต่งตึงของผิวได้จริง
❗ แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ไม่ฉีดมากเกิน หรือเลือกวิธีที่รุนแรงเกินกว่าที่ผิวต้องการ เช่น การทำ HIFU หรือเลเซอร์ความร้อนลึกในวัยที่ยังไม่มีความหย่อนคล้อย อาจกระตุ้นให้ผิวบางโดยไม่จำเป็น

🚀 ตัวช่วยที่เหมาะกับสาย Prejuvenation
Skinvive, Belotero Revive → ฟื้นฟูผิวบาง ช่วยให้ผิวฉ่ำวาวและแข็งแรงจากภายใน
HarmonyCA → กระตุ้นคอลลาเจนแบบไม่บวม เหมาะกับคนเริ่มต้น Biostimulator
Sculptra → สำหรับคนที่เริ่มมี early volume loss และอยากฟื้นฟูระยะยาว
Pico laser / RF microneedle → ช่วยให้รูขุมขนกระชับ ผิวแน่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

📅 ที่ Fresh Code Clinic เราเชื่อว่า “การดูแลก่อนปัญหา ย่อมดีกว่าการแก้ไข”
เพราะฉะนั้นหากคุณอยู่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยากเริ่มต้นดูแลผิวตั้งแต่ยังไม่เกิดปัญหา แพทย์ที่ Fresh Code Clinic พร้อมวิเคราะห์สภาพผิวอย่างละเอียด และแนะนำการดูแลแบบ Prejuvenation ที่ปลอดภัยและเหมาะกับคุณที่สุด
📢 นัดประเมินผิวฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ที่ Fresh Code Clinic

📅 ปรึกษาฟรีที่ Fresh Code Clinic

ที่ Fresh Code Clinic เราใช้ HarmonyCA™ ของแท้เท่านั้น พร้อมเทคนิคฉีดที่ปลอดภัย วิเคราะห์ใบหน้าและสภาพผิวอย่างละเอียด โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่เนียน สวย และดูเป็นธรรมชาติที่สุดในทุกมิติของความงาม

عرض تقسيط 0% مع الحد الأدنى للشراء 20,000 بات، ويمكن التقسيط لمدة تصل إلى 6 أشهر عبر جميع البنوك.
*พิเศษ! สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต KTC รับเครดิตเงินคืน

✨ استشارة الطبيب قبل العلاج مجانية! دون أي تكلفة
🌐 Add LINE @freshcodeclinic คลิกที่ link in bio

📍 سوخومفيت، زقاق 5، محطة BTS نانا، المخرج 1 (يوجد موقف سيارات)
📞 083-626-4264
🕑 مفتوح يومياً من الساعة 11:00 صباحاً حتى 08:00 مساءً

#FreshCodeClinic

FreshCode logo

19 Sukhumvit 5 Alley, Khwaeng Khlong Toei Nuea,

Khet Watthana, Bangkok, Thailand, 10110

02-2532236, 083-626-4264

Open Daily 11:00 AM - 08:00 PM

FreshCode © 2025. All Rights Reserved.